แกร่งสมเป็นเต็งแชมป์! ผ่า 5 หลักสำคัญ ประเทศฝรั่งเศส สอนเชิง เยอรมนี

ประเทศฝรั่งเศส โชว์ฟอร์มได้สมกับเป็นเต็งหนึ่งในศึกยูโร 2020 อย่างแท้จริง เมื่อลงประเดิมสนาม กลุ่ม เอฟ ปราบ เยอรมนี ไปด้วยสกอร์เบาๆ1-0 ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ในศึกยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ 15 มิถุนายนก่อนหน้านี้

ประตูโทนเกิดขึ้นในตอนครึ่งแรกจากการทำเข้าประตูตัวเองของ มัตส์ ฮุมเมลส์ กองหลังตัวกลาง มากมายประสบการณ์ อย่างไรก็ดีสกอร์ที่น้อยนิดไม่ได้สะท้อนรูปเกมที่แท้จริง เพราะเหตุว่าทัพ “ยี่ห้อไก่” เล่นได้เหนือกว่า และคงจะได้ประตูมากยิ่งกว่านี้ด้วย ถ้าเกิดพวกเขาเฉียบคม และไม่โดน “วีเออาร์” ริบประตูคืน

ตอนที่ทัพ “อินทรีเหล็ก” อาจต้องรีบกลับไปแก้ปัญหาการบ้านข้อสำคัญให้เร็วที่สุด ซึ่งก็คือการผลิตช่องทาง และการจบสกอร์ เพราะเหตุว่าในแมตช์ถัดไปพวกเขาต้องดวลกับ ประเทศโปรตุเกส แชมป์เก่า และถ้าเกิดเล่นได้เพียงนี้ ไม่ได้อยากต้องการคิดสภาพเลยว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหน !!!??!!

1. ประเทศฝรั่งเศสแกร่งทั่วแผ่นจริงๆ

ฟอร์มของ “ยี่ห้อไก่” ประเทศฝรั่งเศสชุดนี้บอกเลยหัวแข็งที่จะหาทีมไหนล้มได้จริงๆเพราะเหตุว่าพวกเขาบอกให้เห็นแล้วว่าสามารถจัดแจงกับแรงกดดัน และกรรมวิธีในการสู้กับทีมชั้นแนวหน้าได้อย่างสบายๆ
ทัพ “เลส์ เบลอส์” ชุดนี้เต็มไปด้วยนักเตะที่มีพรสวรรค์ทั้งหมด และเมื่อดูฟอร์มของพวกเขาในเกมกับ เยอรมนี บอกได้เลยว่าแทบไม่มีจุดอ่อนให้มองเห็นสำหรับ 11 ตัวจริงที่ที่ปรึกษาดีดิเยร์ เดส์ชองส์ จัดลงสนาม

แมตช์นี้ตั้งแต่ผู้รักษาประตูจนกระทั่งกองหน้าโชว์ฟอร์มได้อย่างดียิ่งไม่มีที่ติ แนวรับกับกองกลางปฏิบัติงานได้ใส่ประสานลงตัว เวลาบุกก็ช่วยกันดันเกม เวลารับก็ช่วยกันตัดเกมทำให้นักเตะเลือดด๊อยท์ช ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
แต่ว่าที่อยากจะชื่นชมเป็นพิเศษอาจหนีไม่พ้น 3 ประตูดังเช่นว่า คีลิจนกระทั่ง เอ็มบัปกระเป๋า, คาริม เบนเซม่า และ อองตวน กรีซมันน์ พวกเขาเล่นงานแผงปราการหลัง “อินทรีเหล็ก” จนกระทั่งเปิดหนังสือเรียนพิชัยยุทธต่อกรไม่ทัน
บอกเลยว่าสกอร์บอร์ดที่ดูเหมือนจะใกล้เคียง แต่ว่าความจริงแล้ว ประเทศฝรั่งเศส คงจะชนะมากยิ่งกว่านี้ด้วยถ้าเกิดไม่โดน “วีเออาร์” ริบประตูไปเสียก่อน แม้กระนั้นฟอร์มของ “ยี่ห้อไก่” ในเกมนี้อาจทำให้คนไม่ใช่น้อยซูฮกว่านี่เป็นทีมที่เพอร์เฟ็คจริงๆ

2. เยอรมนี ไม่ได้มีอะไรที่อันตรายเลย

บอกตามจริงฟอร์มของ เยอรมนี ในเกมนี้ไม่ใช่ว่าจะขี้เหร่ แต่ว่าสิ่งที่ขาดหายไปของพวกเขาก็คือการผลิตสรรค์เกม และความเฉียบคมในการจบสกอร์ โน่นเป็นจุดใหญ่ที่ทำให้ “อินทรีเหล็ก” โดน “ยี่ห้อไก่” จิกดับในนัดเปิดสนาม กลุ่ม เอฟ
ยอดแข้งเมืองเบียร์ ต้องสู้กับทีมที่แกร่งที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ และอุดมไปด้วยซูเปอร์สตาร์ลูกหนังระดับโลกคนไม่ใช่น้อย โดยพวกเขาบากบั่นที่จะสู้อย่างเต็มที่ แต่ว่าโชคร้ายที่ไม่สามารถที่จะสร้างความอันตรายให้กับเกมรับของ ประเทศฝรั่งเศส ได้มากนัก

ในเวลาที่ช่วงหลัง โยอัคคิม เลิฟ มีการปรับหมากแก้เกมทำให้ทีมเล่นก้าวหน้าขึ้น และทำให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ กับ แซร์ช นาบรี มีบทบาทมากยิ่งขึ้น และเกือบจะทำให้ทีมได้ประตูตีเสมอ แต่ว่าภายหลังที่ ประเทศฝรั่งเศส ปรับพฤติกรรมได้ทั้งสองคนก็แทบไร้บทบาท
ที่น่าเจ็บปวดเข้าไปอีกก็คือตัวสำรองที่ส่งลงมาทั้งยัง เอ็มเร่ ชาน, เควิด โวลแลนด์, เลรอย ซาเน่ และ ติเตียนโม แวร์เนอร์ ไม่สามารถที่จะสร้างความไม่เหมือนให้กับทีมได้เลย ซึ่งถือว่าเป็นการแก้เกมที่น่าผิดหวังสำหรับ เลิฟ จริงๆ

3. ป็อกบาโดดเด่นเป็นสง่า

หนึ่งในผลงานชั้นเลิศของ ประเทศฝรั่งเศส ในแมตช์นี้ต้องกล่าวว่ามาจากความยอดเยี่ยมของ ปอล ป็อกบา จริงๆเพราะเหตุว่าเกมนี้ ดาวเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และเป็นราวกับคีย์แมนของทีมเลยทีเดียว
ภายหลังที่นักเตะมีฟอร์มขึ้นๆลงๆกับ “ซาตานแดง” เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ แต่ว่าในเกมนี้เจ้าตัวบอกให้เห็นถึงศักยภาพชั้นเลิศ โดยรอทำหน้าที่ทั้งยังเชื่อมเกมแดนกลางกับแนวรุก และยังครองบอลได้อย่างเหนียวแน่น

แมตช์นี้ ป็อกบา มีโอกาาสได้โหม่งทำประตูแต่ว่าโชคร้ายบอลข้ามคาน แต่ว่าในขณะที่เหลือเขาเล่นได้อย่างสุดยอดทั้งยังเก็บบอลก้าวหน้า, ติดต่อประสานงานกับเพื่อนฝูงร่วมทีมได้อย่างดียิ่ง และยังมีส่วนทำให้ทีมได้ประตูชัยจากการเปิดบอลยาวอย่างแม่นยำให้ ลูก้าส์ เครื่องปรับอากาศกน็องเดซ ก่อนจะตบเข้าในและ มัตส์ ฮุมเมลส์ สกัดไม่ดีเข้าประตูตัวเอง
นอกจากนั้น อดีตกาลสตาร์ “ม้าลาย” ยูเวนเหม็นตุส ยังบอกให้เห็นถึงการเล่นที่ขยันขันแข็ง และไม่ใช่เพียงแค่รอเพิ่มเติมเกมรุกเพียงแค่นั้น เขายังช่วยตัดบอลก้าวหน้าหลายทีด้วย และการที่เขามี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เป็นคู่หูแดนกลาง ยิ่งทำให้งานทุกๆอย่างง่ายอย่างยิ่งยิ่งขึ้น
งานนี้บรรดาแฟนบอล “ซาตานแดง” แม่น้ำคงคาดหวังที่จะมองเห็นฟอร์มแบบนี้เมื่อเขากลับมาเล่นให้กับสังกัดเดิม

4. เหตุผลที่แมนยูควรซื้อวาราน

แมตช์นี้เป็นอีกเกมที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเรียกร้องให้สมาคมควักกระเป๋าดึงตัว ราฟาแอล วาราน มาเสริมทัพให้ได้ เพราะเหตุว่าฟอร์มของเขาสุดอดทน และจัดแจงผู้เล่นทีมชาติเยอรมนีได้อยู่มือ
กองหลังตัวกลาง  “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เป็นหัวใจในเกมรับของ “ยี่ห้อไก่” อย่างแท้จริง เขาสามารถต่อกรกับผู้เล่นแนวรุกของ “อินทรีเหล็ก” ได้อย่างอดทน และยังมีความนิ่งในการเล่น โดยไม่มีอาการตระหนกตกใจเมื่อโดนคู่แข่งขันบากบั่นบุกเข้ามายิงประตู
ปราการหลังวัย 28 ปีเล่นด้วยสมาธิ และมีความละเอียดในทุกๆจังหวะ โดยเขาสามารถตัดจังหวะหลักๆของ เยอรมนี ได้ตลอด และยังเอาชนะเกมรุกของพวกเขาได้หมดไม่ว่าจะเป็น แซร์ช นาบรี, โธมัส มุลเลอร์ หรือตัวสำรองอย่าง ติเตียนโม แวร์เนอร์

ทั้งยังการอ่านเกมที่เด็ดขาด, การแทงสกัดอย่างแม่นยำ, การแย่งบอลจากคู่แข่งขัน, เก็บกินลูกในอากาศได้หมด และที่่สำคัญยังมีสถิติช่วยสะสางบอลมากถึง 8 ครั้ง ซึ่งมากมายสุดเหนือทุกคนในเกมนี้
ลองคิดดู วาราน ยืนคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในแดนหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด งานนี้บอกได้เลยว่ากองหน้าคู่แข่งขันอาจยากจะหาช่องเจาะเข้าไปทำประตูได้อย่างง่ายดายแน่ๆ

5. สถานการณ์เยอรมนีชักไม่ดี

ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ถือเป็นเรื่องเสื่อมเสียยิ่งใหญ่สำหรับทีมของที่ปรึกษาโยอัคคิม เลิฟ ที่อยู่ในกลุ่มที่ความตาย หรือ “กลุ่ม ออฟ เดธ” เพราะเหตุว่าคู่แข่งขันอย่าง ประเทศโปรตุเกส เพิ่งผลาญ ฮังการี ไปด้วยสกอร์ 3-0
ช่วงนี้ทัพ “ฝอยทอง” รั้งหัวหน้าฝูง กลุ่ม เอฟ และดีกว่าเรื่องประตูได้เสียที่ตุนเอาไว้ 3 เม็ด ในเวลาที่ “อินทรีเหล็ก” เสียไป 3 ประตูโดยที่ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือด้วย ด้วยเหตุนั้นสถานการณ์ของพวกเขาไม่ค่อยน่าไว้ใจซะแล้ว

ประเทศโปรตุเกส ชุดนี้ก็ไม่ธรรมดารวมเหล่าซูเปอร์สตาร์ลูกหนังเอาไว้ทั้งหมดอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, รูเบน ดิอาส และ ดีโอโก้เก๋ โชต้า เป็นต้น นักเตะกลุ่มนี้บอกให้เห็นผลงาานชั้นเลิศกับสังกัดเดิมของพวกเขามาแล้ว

ด้วยเหตุนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เลิฟ แอนด์โค. ต้องรีบกลับไปขบคิดในการหาวิธีสร้างช่องทาง และยิงประตูให้ได้ เพราะเหตุว่าในแมตช์ถัดไปต้องเจอกับ ประเทศโปรตุเกส ถ้าเกิดเกิดเสียท่าพ่ายละก่อน งานนี้ได้โบกมือลา ยูโร 2020 ก่อนเวลาแหงๆ