พิธีฌาปนกิจ เสนาโค้ก พี่น้องในวงการอาลัยรัก แก๊งเสนาใส่ยูนิฟอร์มไว้อาลัย

คนในวงการบันเทิงเดินทางมาร่วมส่ง “เสนาโค้ก” เป็นครั้งสุดท้าย หลังมะเร็งตับคร่าชีวิต

sena2

เต็มไปด้วยความโศกเศร้า พิธีการปลงศพ เสนาโค้ก หรือ สมชาย เปรมอำนาจงษ์ ที่จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งตับ ในวัย 62 ปี ช่วงวันที่ 15 เดือนกันยายน 2564 ก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยครอบครัวได้นำร่างมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ศาลาจารุมิลินท วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ปากเกร็ด รวมทั้งทำพิธีการปลงศพวันนี้ (21 กันยายน64)

โดยเวลาราว 12.30 น. ครอบครัว “เปรมอำนาจงษ์” ได้เคลื่อนศพของ “เสนาโค้ก” จากศาลาจารุมิลินท มายังเมรุมาศเพื่อทำพิธีสัมมนาเพลงในเวลา 14.00 น.
โดยบุตรสาว “สมาย – รสธร เปรมอำนาจงษ์” เป็นผู้ถือรูปของผู้เป็นบิดาเดินนำ รวมทั้งมีแม่ (ภรรยาเสนาโค้ก) รอเดินอยู่ใกล้เคียง ขณะที่ลูกชายคนเล็ก “มาวิน เปรมอำนาจงษ์” ไม่อาจจะมาร่วมงานพ่อได้ เนื่องจากกำลังศึกษาอยู่ที่อเมริกา

นอกเหนือจากคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัว พี่น้อง ก็ยังมีเพื่อนพ้องญาติในวงการสนุกสนานมาร่วมส่งภูตผี “เสนาโค้ก” เป็นคราวสุดท้าย อาทิเช่น อรุณ ภางาม , ติ๊ก กลิ่นสี , เปิ้ล นาคร หินผาชัย , หนูแหม่ม สุริวิภา พร้อมทั้งสามี , เสนาเพชร , เจี๊ยบ วัชระ , อั๋น วัชระ แวววุฒิความสนุกสนาน อื่นๆอีกมากมาย โดย “กลุ่มเสนา” ทุกคนได้พร้อมใจกันใส่ชุดยูนิฟอร์มของผู้จัดรายการ “การรบขยับเหงือก” มาร่วมไว้อาลัย รวมทั้งได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า
sena
“กลุ่มเสนา” ใส่ชุดมาอาลัยอาวรณ์?

หนูแหม่ม : “เป็นไอเดียของพี่เพชรคนแรก แล้วบอกให้เรามารอที่นี่ประเดี๋ยวเอาชุดมาใส่มาส่งพี่โค้ก”

ติ๊ก : “เขาไปเอาชุดจากเจเอสแอลมา แล้วมาลองใส่กันมอง ราว 25 ปีที่มารวมตัวกันรวมทั้งใส่ชุด

เปิ้ล : “เป็นยูนิฟอร์มแห่งการบรรลุเป้าหมายในสมัยที่เราเป็นเด็กๆกัน รวมทั้งเราได้ได้โอกาสมาทำกิจกรรมด้วยกันที่ชาวไทยทั่วประเทศเป็นสุขมากๆในตอนนั้น ในชื่อ “การรบขยับเหงือก” มีเราเป็นนักศึกษาพึ่งจะจบมาใหม่ๆแล้วมารวมตัวกัน เรียกว่าเป็นงานชิ้นแรกๆในวงการสนุกสนานที่เราได้ได้โอกาสสร้างฐานะมาจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งนี่คือชุดยูนิฟอร์มเสนาแห่งการบรรลุเป้าหมาย จริงๆเรายังมีอีกผู้คนจำนวนมากศูนย์รวมอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เสนาหอย , เสนนาลิง , พระโน้ส อุดม อื่นๆอีกมากมาย

อรุณ : “วันนี้ก็มาส่งพี่โค้กครับผม เขาหมดกรรมไปแล้ว แม้กระนั้นพวกที่เหลือคือยังมีกรรมอยู่ ต้องอยู่ม้วนใช้กรรมกันต่อไปเนอะ ก็มาส่งเขา เขาไปดีแล้ว”
หนูแหม่ม : “ถามคำถามว่าความน่ารักของพี่โค้กมีอะไรบ้าง ความเป็นจริงพี่โค้กพี่ใหญ่ เป็นคนที่รอช่วยมองทุกสิ่งทุกอย่าง ในเวลาที่มีคนไหนกันด่าทอเราหรือต่อว่าเรา พี่โค้กจะออกหน้าให้ตลอด ก็คือรับผิด รับถูกใจทุกสิ่งทุกอย่างของเรา มองคิวให้ ดูแลน้องๆตบๆให้มันเป็นไปในทิศทางนี้ คือเป็นรุ่นพี่คนแก่ที่รอดูแลเราตลอด เพราะฉะนั้นวันนี้ก็จะเป็นวันที่เรามาส่งพี่เขาเป็นวันสุดท้าย ก็กล่าวว่าเราส่งพี่ได้เพียงนี้นะ ประเดี๋ยวก็เจอกัน แต่ว่าพบพี่ติ๊กก่อน (หัวเราะ)”

ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เรารู้สึกรำลึกถึงพี่ได้นอกเหนือจาก..คือผู้คนจำนวนมากบางครั้งอาจจะเห็นว่าเพียงนี้เหรอ แม้กระนั้นมันคืออย่างที่พี่เปิ้ลพูดไปหมดแล้ว คือยูนิฟอร์มแห่งการบรรลุเป้าหมายของเรา เราเกิดมาจากตรงนี้ด้วยกัน เพราะฉะนั้นวันนี้เราทำสิ่งซึ่งสามารถทำเป็นดีที่สุดก็คือมาส่งพี่ด้วยชุดนี้กันจ้ะ ระยะเวลานั้นเราเป็นสุขสำหรับเพื่อการทำงานกันมาก มีครบรสเลยจ๊า”

จากนั้นเหล่าเสนาร่วมร้อง “เพลงการรบขยับเหงือก” รวมทั้งทางด้าน “หนูแหม่ม” ก็ได้ตะโกนหันไปที่เมรุมาศว่า “โชคดีจ้ะพี่โค้ก”